1.เลือกทำเล และ โครงการ ถามตัวเองก่อนว่าอยากได้ที่อยู่อาศัยประเภทไหน ทำเลไหนบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ บ้านแฝด หรือคอนโดฯ ซึ่งทั่วไปควรจะหาไว้ในใจไว้เปรียบเทียบ ประมาณ 3-4 โครงการ เพื่อให้ได้โครงการที่ถูกใจผู้อยู่อาศัย
2.จอง ทำสัญญาและผ่อนดาวน์ หลังจากเลือกโครงการและทำเลที่ชอบแล้ว ก็เริ่มขั้นตอนกาซื้อขาย เริ่มจากการวางเงินจอง หรือมัดจำ โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ 3-5 % ของราคาบ้าน สามารถจ่ายได้ทั้งเงินสดและบัตรเครดิตตามแต่ผู้ซื้อสะดวก คิดให้ดีก่อนจองนะคะ ถอนตัวทีหลังไม่ได้เงินคืน จากนั้นจึงทำสัญญาจะซื้อจะขาย และเริ่มต้นทยอยผ่อนดาวน์ โดยระยะเวลาการผ่อนดาวน์จะใกล้เคียงกับระยะเวลาก่อสร้างของโครงการ สมมติว่าโครงการใช้เวลาก่อสร้าง 10 เดือน ก็อาจจะผ่อนชำระเงินดาวน์ 10 งวด เป็นต้น
3.ยื่นกู้ ขั้นตอนนี้ใช้ในกรณีที่ผู้ซื้อไม่ได้ซื้อด้วยเงินสดได้ ก็เลยต้องทำเรื่องกู้กับธนาคาร แต่ถ้าซื้อด้วยเงินสดเมื่อบ้านสร้างเสร็จก็นัดโอนแล้วจ่ายกันเลย แต่ถ้าต้องกู้สินเชื่อธนาคารนั้นเมื่อโครงการก่อสร้างไปได้ 80-90 % โครงการจะแจ้งให้ผู้ซื้อทำเรื่องขอสินเชื่อ หรือบางโครงการอาจะมีบริการส่วนนี้ให้ ด้วยการเป็นผู้ดำเนินการเดินเรื่อกับธนาคารโดยตรง
4.ตรวจรับงานก่อสร้าง เป็นขั้นตอนที่ต้องใช้ความละเอียดในการตรวจสอบอาจเป็นขั้นตอนที่เกิดขึ้นใกล้กับการทำเรื่องของสินเชื่อ เมื่อบ้านก่อสร้างเสร็จโครงการก็จะแจ้งให้ผู้ซื้อมาตรวจรับงานก่อนโอนกรรมสิทธิ์ ซึ่งขั้นตอนนี้ผู้ซื้อควรตรวจสอบอย่างละเอียด หากพบปัญหาตรงไหนต้องรีบแจ้งโครงการ เพื่อให้ปรับปรุงแก้ไขให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ตามที่ระบุเอาไว้ในสัญญา
5.โอนกรรมสิทธิ์ เป็นขั้นตอนสุดท้ายในการซื้อบ้าน ฝ่ายทั้งผู้ซื้อ ผู้ขาย และผู้กู้ต้องไปพบกันที่สำนักงานที่ดินเพื่อนโอนกรรมสิทธิ์ แต่บางโครงการก็อาจจะทำเรื่องการโอนกรรมสิทธิ์แทนผู้ซื้อให้เลย หลังจากนั้นตอนนี้ผู้ซื้อจะมีสภาพเป็นลูกหนี้ของธนาคาร มีหน้าที่ผ่อนชำระไปจนครบทั้งหมดกรรมสิทธิ์ ก็จะตกเป็นของผู้ซื้อโดยสมบูรณ์