พาชมไปโครงการ ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา บ้านเดี่ยวทำเลเมือง โครงการใหม่จาก บมจ. มั่นคงเคหะการ ตัวโครงการตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพ ในซอยคู้บอน 27 ถนนคู้บอน แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
เดินทางสะดวกสบาย เชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้ทั้ง ถนนวัชรพล, ถนนสุขาภิบาล 5 และ ถนนรามอินทรา เชื่อมต่อเข้า-ออกเมืองได้ง่าย ใกล้ทางด่วนกาญจนาภิเษก และ ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เพียง 5 นาที ถึง รถไฟฟ้าสายสีชมพู สถานีคู้บอน
รายล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ มากมาย ทั้ง Fashion Island, Central รามอินทรา, Crystal Park, CDC, Central Festival Eastville, Home Pro, ม.เกษตรศาสตร์, ม.ศรีปทุม, รร.สตรีวิทยา 2, รร.เลิศหล้า, รร.นานาชาติไทย-อเมริกัน, รพ.สินแพทย์ และ รพ.พญาไท นวมินทร์
ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา บ้านเดี่ยวดีไซน์ใหม่ American Country Style พร้อมนวัตกรรม Air Flow เพื่อลดความร้อนภายในบ้าน ออกแบบใช้โทนสี Pastel เพื่อให้ดูอบอุ่น สบายตา ในสังคมคุณภาพเพียง 113 หลัง
มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ที่ดินบ้าน เริ่มต้น 50 ตร.ว. ขึ้นไป พื้นที่ใช้สอย เริ่มต้น 3-4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถ พร้อมระบบ Home Automation และ ระบบ Magnetic Sensors ในตัวบ้านทุกหลัง คาดว่าจะแล้วเสร็จทั้งโครงการ ธ.ค. 2563
สิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการครบครัน อาทิ สวนส่วนกลางขนาดใหญ่ พร้อมพื้นที่สีเขียวทั่วโครงการ, สนามเด็กเล่น Edutainment Playground ที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้ และเสริมสร้างพัฒนาการ พร้อมระบบรักษาความปลอดภัยแบบ Double Security ในราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท*


ที่ตั้งโครงการ
ซอยคู้บอน 27 ถนนคู้บอน แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม.
พิกัด Google : 13.860057, 100.653177

ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา บ้านเดี่ยวพร้อมอยู่โครงการคุณภาพจาก บมจ.มั่นคงเคหะการ ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยคู้บอน 27 ถนนคู้บอน เขตบางเขน กทม. เป็นทำเลที่มีความสะดวกสบาย สามารถเดินทางเข้า-ออกโครงการได้อย่างสะดวก ใกล้จุดขึ้น-ลงทางด่วนถึง 2 เส้นหลัก
โซนนี้นับว่าเป็นย่านของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low rise, ออฟฟิศ โดยจะมีอาคารพาณิชย์เรียงขนาบถนนใหญ่ พอเข้าซอยก็จะเป็นลักษณะของชุมชน
จากภาพรวมของย่านนี้นับว่ามีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นย่านของที่อยู่อาศัยและออฟฟิศขนาดย่อม ๆ มีตั้งแต่ ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซูเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืน
จากที่สังเกตดูก็คือ ย่านนี้ยังมีการเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ มีโครงการเกิดขึ้นอีกมากมายในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นโครงการในแนวดิ่งหรือในแนวราบ เพราะการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพู ที่จะทำให้การสัญจรไป-มาสะดวกมากขึ้น และเพื่อรองรับพนักงานออฟฟิศที่เข้ามาทำงานในย่านนี้ จึงทำให้โซนนี้เป็นที่น่าจับตามองอีกโซนนึงเลยค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ เดินทางได้สะดวกสบาย เข้า-ออกเมืองได้ง่าย ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยคู้บอน 27 เข้า-ออกโครงการจากถนนคู้บอนเป็นหลัก ใกล้กับถนนรามอินทรา, ถนนนวมินทร์ และถนนวัชรพล ซึ่งสามารถเชื่อมไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายเส้น
ถนนประดิษฐ์มนูธรรม วิ่งลงทางตอนใต้ จะตัดกับถนนเกษตร-นวมินทร์และถนนลาดพร้าว ซึ่งจะไปเชื่อมกับถนนพหลโยธิน วิ่งลงมาอีกจะมาตัดกับถนนพระราม 9 และสุดที่ถนนเพชรบุรี เข้าสู่ย่าน CBD (Central Business District) ได้สะดวก
โดยมีตัวช่วยในการเดินทางคือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชและทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ถนนวัชรพล ก็สามารถใช้วิ่งขึ้นไปทางห้าแยกวัชรพล เชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 5, ถนนเทพารักษ์, ถนนเพิ่มสิน และ ถนนสายไหม ซึ่งจะมีซอยเชื่อมไปยังถนนลำลูกกาได้ด้วย
ถนนรามอินทรา ถ้าวิ่งไปฝั่งตะวันตกทางปากเกร็ด จะไปเชื่อมกับถนนแจ้งวัฒนะ ตัดกับถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี-รังสิต และผ่านหน้าศูนย์ราชการ ส่วนฝั่งตะวันออกจะเชื่อมต่อออกไปยังมีนบุรีได้เลย
นอกจากนี้ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับวงแหวนกาญจนาภิเษก ซึ่งเป็นตัวช่วยในการเดินทางอีกเส้นหนึ่ง จะวิ่งขึ้นไปทางบางปะอินหรือใช้วิ่งลงไปทางบางนาก็สะดวก อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์และทางพิเศษบูรพาวิถีอีกด้วยค่ะ

---

ทางด่วน

ตัวโครงการจะห่างจากจุดขึ้น ทางพิเศษกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอก กรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ระยะทาง 5.7 กม. ใช้เวลาประมาณ 10-14 นาที

• ตัวโครงการจะห่างจากจุดขึ้น ทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) ระยะทาง 8 กม. ใช้เวลาประมาณ 12-20 นาที

ระยะทางแยกและถนนสำคัญใกล้เคียง

• ที่ตั้งโครงการ : ซ.คู้บอน 27
• ถ.วัชรพล : 1.2 กม.
• ห้าแยกวัชรพล : 2 กม.
• ถ.สุขาภิบาล 5 : 2 กม.
• ถ.คู้บอน : 2.7 กม.
• ทางขนานกาญจนาภิเษกฯ : 3.4 กม.
• ถ.รามอินทรา : 4.1 กม.
• แยกคู้บอน : 4.1 กม.
• แยกรามอินทรา กม.8 : 4.2 กม.
• ถ.นวมินทร์ : 4.2 กม.
• ทางพิเศษกาญจนาภิเษกฯ : 5.7 กม.
• ทางพิเศษฉลองรัช : 8 กม.

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ : บริเวณหน้าโครงการจะไม่มีรถประจำทางวิ่งผ่านนะคะ แนะนำให้ใช้ Application Grab หรือ Line เพื่อความสะดวกสบายในการเดินทาง หรือจะสอบถามเบอร์โทรศัพท์จากวินมอเตอร์ไซค์ใกล้ ๆ เอาไว้ เพื่อโทรเรียกให้เข้ามารับไปต่อรถประจำทางสายอื่น ๆ ได้ ที่ถนนใหญ่คู้บอน จุดนั้นจะมีรถประจำทางม รถสองแถว รวมถึงรถตู้ผ่านหลายสาย เส้นทางการเดินรถครอบคลุมทั่วกทม. และ ชานเมือง
ในอนาคตใกล้ ๆ กับโครงการจะมี รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี สถานีที่ใกล้ที่สุดคือ สถานีคู้บอน ตัวสถานีจะตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา ช่วงระหว่างซอยรามอินทรา 69 และซอยรามอินทรา 46
จากสถานีคู้บอน นั่งต่อไปเพียง 2 สถานี จะถึง สถานีวัชรพล ที่เป็นสถานี Interchange ระหว่าง รถไฟฟ้าสายสีเทาช่วงวัชรพล-ทองหล่อ เป็นโครงการในอนาคตที่วิ่งเลียบเส้นเลียบด่วนรามอินทรา
โดยโครงการ รถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี มีจุดเริ่มต้นโครงการที่ถนนรัตนาธิเบศร์บริเวณด้านหน้าศูนย์ราชการจังหวัดนนทบุรีไปสิ้นสุดที่ทางแยกร่มเกล้าบริเวณซอยรามคำแหง 192 รวมระยะทางประมาณ 34.5 กิโลเมตร มีสถานีรับส่งผู้โดยสาร 30 สถานี
โดยมีจุดเชื่อมต่อโครงข่ายที่สามารถเปลี่ยนถ่ายผู้โดยสารระหว่างโครงการได้ 4 จุด ได้แก่

• จุดที่ 1 สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายฉลองรัชธรรม (สายสีม่วง) ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ
• จุดที่ 2 สถานีหลักสี่ เชื่อมต่อกับโครงการระบบรถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต
• จุดที่ 3 สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ เชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-ตูคต
• จุดที่ 4 สถานีมีนบุรี สามารถเชื่อมต่อกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี

ความอุดมสมบูรณ์ บริเวณโดยรอบของตัวโครงการจะเป็นอาคารที่พักอาศัยในแนวราบ ทั้งบ้านเดี่ยว, ทาวน์โฮม, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม และอาคารพาณิชย์ ซึ่งตอบโจทย์สำหรับคนที่ชอบความเงียบสงบ ไม่หนาแน่นอึกทึกเท่ากับการอยู่อาศัยในตัวเมือง ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้ก็นับว่ารองรับการอยู่อาศัยให้มีความสะดวกสบายพอสมควรเลย ไม่ว่าจะเป็น ห้างสรรพสินค้า, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซูเปอร์มาร์เก็ต และตลาดนัด ในย่านนี้มีครอบคลุมทั้งหมด

ส่วนความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างเริ่มจากเส้นรามอินทรา ที่เด่น ๆ เลยอยู่ตรงช่วงกม.10 ก็คือห้าง Fashion Island ศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ที่รวบรวมสินค้าอุปโภค บริโภค, ร้านเสื้อผ้า, ร้านค้า, โรงเรียนกวดวิชา และโรงภาพยนตร์ไว้ครบครัน มี The Promenade ไลฟ์สไตล์ ช้อปปิ้งมอลล์ ที่เชื่อมต่อจากศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ได้เลย มี Central Plaza รามอินทรา ตรงช่วงรามอินทรา กม.2
ออกไปที่เส้นเลียบด่วนรามอินทรา ก็จะมีทั้ง The Crystal, CDC, Central Festival Eastville, ร้านอาหารบรรยากาศดี รวมถึงตลาดนัดเลียบด่วนขนาดใหญ่ ซึ่งตอนนี้ได้เปิดพื้นใหม่อีก 10 ไร่ ให้ร้านค้ามาลงติดเส้นรามอินทราอีกด้วย
บนเส้นนวมินทร์ก็มีทั้ง Tesco Lotus และ Big C Market มาอีกด้านบนเส้นเกษตร-นวมินทร์ก็มีหลายอย่างที่น่าสนใจ มี Community Mall, ตลาดนัดหัวมุม Market & More เป็นตลาดนัดกลางคืนกับสินค้าในราคาย่อมเยา, ร้านอาหาร และร้านนั่งชิว มา Hangout กับเพื่อน ๆ ได้ในยามค่ำคืนค่ะ

ใกล้กับสถานศึกษา, โรงพยาบาล และหน่วยงานราชการ อย่างเช่น รร.รัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน, รร.จารุวรรณ, รร.สายอักษร, รร.ไทยรัฐวิทยา 75 เฉลิมพระเกียรติ, รร.นานาชาติกีรพัฒน์, รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี 2), รร.สาธิตพัฒนา, รร.สตรีวิทยา 2 ฯ, รร.โชคชัย, รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม และ ม.นอร์ท วิทยาเขตสะพานใหม่,
ส่วนสถานพยาบาล ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำ ทั้ง รพ.สินแพทย์ รามอินทรา, รพ.พญาไท นวมินทร์, รพ.CGH, รพ.นพรัตนราชธานี และ รพ.ภูมิพลอดุลยเดชฯ นอกจากนั้นยังตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่ท่องเที่ยวอย่าง สวนสยาม และ ซาฟารีเวิลด์ อีกด้วยค่ะ
ศูนย์การค้า ตลาด และร้านสะดวกซื้อ

• Plearnary Mall : 1.3 กม.
• ตลาดถนอมมิตร : 1.3 กม.
• 7-11 ม.เมธา : 1.6 กม.
• Mini Big C : 1.7 กม.
• Cafe Amazon : 1.7 กม.
• Lotus วัชรพล : 2.2 กม.
• โอโซนพลาซ่า : 3.5 กม.
• Lotus Express : 3.6 กม.
• Big C Market : 3.9 กม.
• Venice Di Iris : 4.4 กม.
• Max Value : 4.5 กม.
• ตลาดออเงิน : 5.7 กม.
• The Promenade : 6.3 กม.
• Fashion Island : 6.3 กม.
• ตลาดนัดเลียบด่วนฯ : 6.7 กม.
• CDC : 11.8 กม.
• The Walk เกษตรนวมินทร์ : 10 กม.
• Central Festival Eastville : 12.5 กม.
• Central Plaza รามอินทรา : 12.8 กม.
• The Crystal Veranda : 13.6 กม.

อาคารสำนักงาน และหน่วยงานอื่นๆ

• เสถียรธรรมสถาน : 2 กม.
• สำนักงานเขตสายไหม : 5.5 กม.
• Safari World : 7.9 กม.
• สวนสยาม : 9.3 กม.
• สนามบินดอนเมือง : 21.6 กม.

สถานศึกษา

• รร.รัตนโกสินทร์สมโภชบางเขน : 2.5 กม.
• รร.จารุวรรณ : 4.2 กม.
• รร.สายอักษร : 5.8 กม.
• รร.ไทยรัฐวิทยา 75 เฉลิมพระเกียรติ : 5.8 กม.
• ม.นอร์ท วิทยาเขตสะพานใหม่ : 7.5 กม.
• รร.นานาชาติกีรพัฒน์ : 8 กม.
• รร.บดินทรเดชา (สิงห์ สิงหเสนี 2) : 8.3 กม.
• รร.สาธิตพัฒนา : 9.2 กม.
• Western : 10.3 กม.
• รร.สตรีวิทยา 2 ฯ : 11.6 กม.
• รร.โชคชัย : 11.7 กม.
• รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม : 13.3 กม.

ศูนย์การแพทย์

• รพ.สินแพทย์ รามอินทรา : 5.4 กม.
• รพ.พญาไท นวมินทร์ : 5.8 กม.
• รพ.CGH : 7.6 กม.
• รพ.นพรัตนราชธานี : 8.3 กม.
• รพ.ภูมิพลอดุลยเดชฯ : 10 กม.

**ระยะทางวัดจากการเดินทางจากรถยนต์ สู่จุดหมาย โดยถนนที่ใกล้ที่สุด**


ภาพประกอบการเดินทาง

พิกัด Google : 13.860057, 100.653177
การเดินทางเริ่มจาก ทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) ลงทางออก 17 ถ.รามอินทรา (หลักสี่ – วัชรพล – รามอินทรา) ⇒ ถ.ประดิษฐมนูธรรม ⇒ ขึ้นทางต่างระดับวัชรพล ⇒ ถ.รามอินทรา ⇒ แยกคู้บอน ⇒ ถ.คู้บอน ⇒ ซ.คู้บอน 27 ขับตรงไป 2.7 กม.ถึงโครงการ ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา *ใกล้ทางด่วนฯ ทั้ง 2 สาย

ภาพประกอบการเดินทาง เรามาจากบางนาโดยใช้ ทางพิเศษฉลองรัช (ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์) ลงทางออก 17 ถ.รามอินทรา (หลักสี่ – วัชรพล – รามอินทรา)

จากนั้นให้ขึ้นทางต่างระดับวัชรพล

แล้วเบี่ยงซ้ายตามป้ายไปวัชรพล – มีนบุรี

จากนั้นเบี่ยงขวาเข้าสู่ ถ.รามอินทรา ตามแนวก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่อยู่เกาะกลางค่ะ

ขับตรงไปตามทางเรื่อยๆ ผ่านแยกนวลจันทร์

จากนั้นให้เราอยู่เลนซ้ายไว้ค่ะ ไม่ต้องขึ้นสะพานข้ามแยกนะคะ ให้ตามป้ายไป ถ.คู้บอนค่ะ

พอถึงแยกคู้บอนให้เราเลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าสู่ ถ.คู้บอนค่ะ

ขับตรงไปตามเรื่อยๆ บริเวณโซนนี้ก็จะมี Big C Market , Tesco Lotus Express และ โอโซนพลาซ่าค่ะ

พอถึงสามแยกคู้บอน 27 เราจะเลี้ยวซ้ายเข้า ซ.คู้บอน 27 ค่ะ

• ระยะทางจากปากทางไปยังหน้าโครงการประมาณ 2.7 กม.ค่ะ

ภายในซอยจะมีร้านสะดวกซื้อที่ใกล้โครงการที่สุดอย่าง Mini Big C และ Cafe Amazon ด้วยค่ะ

เราจะเลี้ยวเข้าโครงการของ บริษัทมั่นคงเคหะการ ทางซ้ายมือ ซึ่งภายในนี้มีหลายเฟสเลยค่ะ ส่วนวันนี้ที่เราจะรีวิวคือโครงการ ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา ค่ะ

ขับตรงไปตามทางเรื่อยๆ จะมีป้ายบอกทางไปโครงการอยู่เรื่อยๆ ค่ะ

ถึงโครงการ ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา

ด้านหน้าโครงการ ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา

---

ตัวโครงการ

ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา เป็นโครงการบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น มีความเป็นส่วนด้วยจำนวนเพียง 113 ยูนิต บนที่ดิน 25 ไร่ ขนาดฟังก์ชั่น 3-4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ออกแบบบ้านมาในสไตล์ American Country พร้อมนวัตกรรม Air Flow เพื่อลดความร้อนภายในบ้าน ออกแบบและใช้โทนสี Pastel เพื่อให้ดูอบอุ่นและสบายตา พร้อมฟังก์ชั่นสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว และ มีระบบ Home Automation + ระบบ Magnetic Sensors ในตัวบ้าน ติดมาให้มาตรฐานทุกหลัง
ก่อนที่เราจะเดินเข้าไปสำรวจบริเวณภายในโครงการจะขออธิบายผังคร่าว ๆ เพื่อความเข้าใจกันก่อนนะคะ เริ่มกันที่ทางเข้า-ออกของโครงการจะอยู่ในโครงการ ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา โดยจะต้องผ่าน Gate รักษาความปลอดภัยกว้างถึง 16 เมตร ประกอบด้วย ป้อมรปภ., ระบบ Easy Pass และกล้อง CCTV
จาก Gate จะเชื่อมสู่ถนนหลักกว้าง 12 เมตร (สีส้ม) ตัดเข้าไปภายในโครงการ และเชื่อมต่อด้วยถนนรองกว้าง 10 เมตร (สีเขียว) และถนนซอยกว้าง 9 เมตร (สีชมพู) ตัดผ่านหน้าบ้านทุกหลัง โดยจะมีสวนสาธารณะขนาดใหญ่กว่า 1 ไร่ และสนามเด็กเล่น เป็นปอดอยู่ตรงใจกลางโครงการเลยค่ะ
ข้อดีของโครงการก็คือ มีการจัดผังให้หน้าบ้านหันตามแนวแกนเหนือ-ใต้ ทำให้ตัวบ้านเย็นสบาย สามารถรับลมได้ตลอดทั้งปี อีกทั้งยังมีจำนวนยูนิตที่ไม่เยอะมาก เมื่อเทียบกับขนาดพื้นที่ของโครงการ ทำให้โครงการมีความเป็นส่วนตัวสูงและไม่แออัด

---

บริเวณภายในโครงการ
ทางเข้าโครงการ

ป้ายชื่อโครงการ ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา

เมื่อสักครู่เราได้ชมบรรยากาศรอบนอกและรายละเอียดของโครงการกันไปแล้ว เดี๋ยวเราไปชมภายในโครงการ, พื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงบ้านตัวอย่างกันค่ะ

ซุ้มของโครงการถูกออกแบบมาในสไตล์ American Country กว้างถึง 16 เมตร ใช้เอกลักษณ์แบบผนังไม้ตีในแนวนอนและโทนสีพาสเทลดูอบอุ่นและสบายตา แต่ปรับให้ดูโมเดิร์นมากยิ่งขึ้น

ส่วน Security Gate จะต้องผ่าน ป้อมรปภ., รั้วไม้กระดก และกล้อง CCTV ทั้งช่องทางเข้า-ออก ด้วยระบบ Easy Pass

สำหรับ Resident ที่ถือ Key Card สามารถขับผ่านรั้วเข้าไปได้เลย ส่วน Visitor จะต้องแลกบัตรกับเจ้าหน้าที่ก่อนนะคะ

รถยนต์เข้า-ออกระบบ Easy Pass

พร้อมติดตั้งกล้องวงจรปิด CCTV จับภาพด้านหน้าคนขับ และ ป้ายทะเบียนรถยนต์ให้ฝั่งละ 2 ตัว
บริเวณภายในโครงการ

ผ่านส่วน Security เข้ามาแล้วจะเชื่อมด้วยถนนหลักกว้าง 12 เมตร นำเข้าสู่ตัวโครงการค่ะ

ทางฝั่งขวามือติดกับซุ้มทางเข้าเลยจะมีพื้นที่สวนหย่อมเล็กๆ และนิติบุคคล

มีป้ายบอกทางตรงเข้าไปยังสำนักงานและบ้านตัวอย่างที่ด้านใน

จากถนนหลักของตัวโครงการตรงไปจะเชื่อมด้วยถนนรองกว้าง 10 เมตร

เลี้ยวซ้ายมาตามทาง สำนักงานขายจะตั้งอยู่ทางฝั่งขวามือ เปิดให้เข้าชมโครงการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9.00-18.00 น.

จะเห็นว่าถนนซอยมีขนาดค่อนข้างกว้างทีเดียวนะคะ กว้างถึง 9 เมตร แถมยังเป็นส่วนตัวและไม่อึดอัดเพราะซอยบ้านไม่ลึกมาก และมีบ้านอยู่เพียง 4 ยูนิต/ซอยเท่านั้น

ผ่านสำนักงานเดินตรงเข้าไป จะเจอกับสวนส่วนกลางของโครงการ

ขวามือเป็นที่ตั้งของสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ พร้อมสนามเด็กเล่นที่ออกแบบมาเพื่อการเรียนรู้ และเสริมสร้างพัฒนาการ

ด้านหน้าสวนอีกฝั่งมีที่จอดจักรยานเอาไว้ให้ด้วยนะคะ

เราเข้ามาดูในสวนกันต่อเลยค่ะ สวนส่วนกลางของโครงการ มีพื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 1 ไร่ ถูกออกแบบมาในสไตล์ American Country ได้บรรยากาศที่ดูน่ารัก สบายตา น่าผ่อนคลาย โดยรอบสวนจะปลูกไม้ยืนต้นและตกแต่งด้วยไม้พุ่มคลุมดิน ส่วนตรงกลางปูพื้นหญ้าเรียบทั้งหมด และทำทางเดินหินให้โดยรอบ



แต่ละมุมของสวนจะจัดให้เป็นมุมพักผ่อน มีม้านั่งสำหรับนั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้ได้

ตรงเข้าไปด้านในจะเจอกับ Pavilion และ สนามเด็กเล่นที่ด้านท้ายสวน

ตรงกลางสวนทำเป็น Pavilion ทรงกลมน่ารัก ๆ เหมือนกรงนก


ภายในก็ทำม้านั่งเอาไว้ให้ด้วยค่ะ ตรงกลางปลูกไม้เลื้อยเอาไว้ให้ไต่คลุมหลังคา

ผ่าน Pavilion ไปจะเป็นสนามหญ้า ที่ร่มรื่นไปด้วยต้นไม้พันธุ์ใหญ่ตลอดแนวสวน


สนามเด็กเล่น Edutainment Playground กระจายไว้ให้ 2 จุดค่ะ ปูพื้นด้วยแผ่นยางกันกระแทก ลายตัวเลขอารบิค และ ตัวพิมพ์ภาษาอังกฤษ ป้องกันการบาดเจ็บเวลาเด็ก ๆ เล่นแล้วหกล้ม พร้อมทั้งจัดเตรียมเครื่องเล่นเสริมสร้างพัฒนาการเด็กไว้ให้ด้วยนะ

ลานนวดฝ่าเท้าเพื่อช่วยการหมุนเวียนของโลหิตในร่างกายสำหรับผู้สูงวัย

ด้านข้างมีมุมออกกำลังกายกลางแจ้งภายในสวน พร้อมเครื่องออกกำลังกาย 3 ชุด

บรรยากาศภาพรวมภายในสวนส่วนกลางของโครงการค่ะ

---

แบบบ้าน
แบบบ้านของโครงการจะเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ American Country มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ ด้วยกัน จุดเด่นของบ้านภายในโครงการนี้ก็คือ เป็นบ้านที่มี Function และพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง มีการเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ ฝ้าเพดานภายในบ้านทั้งชั้น 1 และชั้น 2 ที่สูงโปร่ง 2.6 เมตร ทำให้โถงบันไดดูโปร่งโล่งมากขึ้น เราจะมาดูฟังก์ชั่นของแบบบ้านทั้ง 4 กันค่ะ

• แบบบ้าน Iris พื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• แบบบ้าน Marisa พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• แบบบ้าน Vanda พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

• แบบบ้าน Iris | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม.
• ขนาด 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• 1 ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย

แปลนชั้น 1 | แปลนชั้น 2

• แบบบ้าน Marisa | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม.
• ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• 1 ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, แพนทรี่, ครัวไทย

แปลนชั้น 1 | แปลนชั้น 2

• แบบบ้าน Vanda | บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม.
• ขนาด 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• 1 ห้องนั่งเล่น, ห้องรับประทานอาหาร, ครัวไทย

แปลนชั้น 1 | แปลนชั้น 2

---

บ้านตัวอย่าง
วันนี้ทางทีมงาน Homenayoo พาไปชมบ้านตัวอย่าง 2 หลังด้วยกัน ลำดับเป็น แบบบ้าน Iris ขนาด 143 ตร.ม. และ ตามด้วย แบบบ้าน Marisa ขนาด 162 ตร.ม. โดยบ้านตัวอย่างจะมีการตกแต่ง และจัดฟังก์ชั่นเสริมมาให้ดูเป็นไอเดีย ในส่วนของบ้านมาตรฐานพร้อมส่งมอบ ลูกค้าจะได้เป็นบ้านเปล่า ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง ผนังภายในบ้านติดวอลเปเปอร์สีพื้น พร้อมนวัตกรรม Air Flow + ระบบ Home Automation + ระบบ Magnetic Sensors ในตัวบ้าน จัดสวนปูหญ้ามาตรฐานให้ มีระบบกำจัดปลวกเดินท่อมาให้รอบตัวบ้าน พร้อมติดตั้งปั๊มน้ำและถังสำรองน้ำมาให้ทุกยูนิตค่ะ
แบบบ้าน Iris ขนาด 143 ตร.ม.

หน้าบ้านมาตรฐาน แบบบ้าน Iris ขนาด 143 ตร.ม. บ้านเดี่ยว 2 ชั้น หน้าตาบ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ American Country ใช้สีโทนพาสเทลดูสบายตา และตกแต่งด้วยลายไม้ตีตามขวาง

แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 2 คันค่ะ ทางเข้าหลักจะอยู่ทางเฉลียงหน้าบ้าน ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น ต่อเนื่องไปยังส่วนรับประทานอาหาร จากส่วนโถงกลางจะเชื่อมต่อกับ ห้องครัว, ห้องน้ำชั้นล่าง และโถงบันได จากห้องครัวจะเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้าน พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับครอบครัวขนาด 4 – 5 คนค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องและห้องน้ำชั้นบน 1 ห้อง โดยห้องนอนขนาดเล็กและขนาดใหญ่จะวางอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนขนาดกลางและห้องน้ำชั้นบนจะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ ภายในห้องนอนใหญ่จะสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ และมีห้องน้ำให้ในตัว ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะสามารถวางเตียงขนาดตั้งแต่ 3.5-5 ฟุตขึ้นไปได้และวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อย่างลงตัว โดยจะใช้ห้องน้ำชั้นบนร่วมกันค่ะ
รั้วบ้าน และโรงจอดรถ บ้านมาตรฐาน

เริ่มจากที่รั้วบ้านค่ะ เป็นรั้วเลื่อนระแนงเหล็กตอนเดียว ที่รั้วบ้านจะมีซุ้มประตูเล็กเป็นทางเท้าเข้าบ้าน, กล่อง Mail Box, กริ่งไร้สาย, โคมไฟ และถังขยะฝังกำแพงติดมาให้มาตรฐานทุกหลัง

ซุ้มประตูทางเท้าสำหรับเดินเข้าบ้านได้สะดวกกว่า ไม่ต้องคอยเลื่อนเปิด – ปิดรั้วใหญ่ให้เสียเวลา

Mail Box, กริ่งไร้สาย และช่องเก็บขยะที่รั้วบ้าน เป็นจุดที่ทำให้ลูกบ้านสะดวกมากขึ้น โดยลูกบ้านจะสามารถทิ้งขยะได้จากภายในตัวบ้านได้เลย ทางส่วนกลางของโครงการจะมาเก็บขยะไปจากช่องด้านหน้ารั้วเอง

เข้ามาในส่วนของโรงจอดรถจะสามารถจอดรถได้ 2 คัน โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็ก และเทพื้นซีเมนต์ขับเรียบ ฝ้าเพดานเป็นฝ้าแผ่นเรียบไฟเบอร์ซีเมนต์ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ 2 ดวง ผนังมีเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำให้ 1 จุด และมีตู้สำหรับเก็บของเช่นพวกอุปกรณ์ทำความสะอาดรถและอุปกรณ์ทำสวนที่ด้านใน

จากพื้นที่จอดรถมองไปยังพื้นที่สวนหน้าบ้าน ซึ่งทางโครงการจะทำการปูพื้นหญ้าและจัดสวนตามมาตรฐานของโครงการเอาไว้ให้แล้ว

กลับมาที่ด้านหน้าบ้านตัวอย่าง เดี๋ยวเราจะพาชมไปชมรายละเอียดภายในบ้านกันต่อค่ะ

มาที่เฉลียงทางเข้าบ้านค่ะ จะมีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน พร้อมติดดวงโคมดาวน์ไลท์และไฟกิ่งให้ พื้นเฉลียงจะยกระดับขึ้นมาให้ประมาณ 30 ซม. ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. และเก็บขอบด้วยทรายล้างสีเทา

ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีขาว พร้อมบานฟิกซ์ที่ด้านบน ลูกฟักใช้เป็นกระจกเขียวตัดแสง เพื่อลดปริมาณความร้อนและความเข้มของแสงแดดที่จะส่องเข้าสู่ภายในบ้าน

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นห้องทานอาหาร ทางขวามือจะเป็น โถงบันได, ห้องน้ำ และห้องครัว ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบติดวอลเปเปอร์ให้

ฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด

ระบบควบคุมไฟฟ้าผ่าน Application บริเวณชั้นล่างของทุกแบบบ้าน จะมีการติดตั้งตัว Sensor ที่สามารถเปิด-ปิดไฟ, ทีวี, แอร์ และสัญญาณกันขโมยผ่าน Application ได้

จะเห็นว่าพื้นที่ภายในโถงหลักค่อนข้างกว้างขวางและโปร่งโล่งดีทีเดียว เพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ล้อมรอบถึง 3 ด้านเลย

มาดูไอเดียการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านตัวอย่างกันต่อค่ะ ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างขวาง สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมโต๊ะกาแฟและอาร์มแชร์ หรือเราจะวางเป็นโซฟาเบดก็ได้นะ

แถมพื้นที่ข้างๆ โซฟายังสามารถวางโต๊ะทำงานและโต๊ะข้างเพิ่มเติมได้ หรือจะวางเป็นตู้โชว์ของก็ได้ค่ะ


ด้านหลังตำแหน่งที่วางโซฟาจะมีหน้าต่างบานเลื่อนอลูมิเนียมกระจกเขียวตัดแสงให้แบบนี้ค่ะ

มือจับบานหน้าต่างแบบเซาะร่องมาตรฐานพร้อมตัวล็อคที่ท้ายบานอีกชั้น

บริเวณชั้นวางทีวีสามารถทำเป็นชั้นแบบ Built – in เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของที่ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น หรือจะตกแต่งด้วยกระจกบนผนังบางส่วนก็จะช่วยทำให้บ้านดูกว้างขวางขึ้นได้ค่ะ

ระยะจากโซฟา ไปจนถึงขั้นวางทีวีเหลือเกือบ 3 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะสำหรับการดูทีวีขนาดจอ 60 นิ้วได้เลยค่ะ

ถัดจากห้องนั่งเล่นเข้าไป จะเป็นมุมทานอาหาร และ ห้องครัว

บริเวณมุมทานอาหาร จะได้ช่องแสงมาทั้ง 2 ด้าน เป็นหน้าต่างและประตูบานเลื่อน ในส่วนของเนื้อที่ก็ค่อนข้างเหลือเฟือ ขนาดวางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งแล้วก็ยังเหลือเนื้อที่โดยรอบอีกเยอะ

ด้านข้างห้องทานอาหารมีประตูบานเลื่อน สามารถเปิดเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านได้แบบนี้

พอเปิดบานเลื่อนออกไป ทางบ้านตัวอย่างได้ทำเป็นพื้นเฉลียงคอนกรีตทำผิวทรายล้างให้ดูเป็นไอเดียนะคะ

ภาพจากบริเวณห้องรับประทานอาหารอีกมุมมองนึง

จากห้องรับประทานอาหารจะเชื่อมต่อกับครัวไทย มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นแบบนี้ค่ะ

พื้นห้องครัวก็ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ให้เหมือนเดิม ทางบ้านตัวอย่างจัดเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L กำลังพอดีกับพื้นที่ห้อง

ขนาดของเคาน์เตอร์ที่วางได้ที่ว่าใหญ่เหลือเฟือเลย วางทั้งอ่างล้างจานและเตาปรุงอาหารได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังเหลือพื้นที่สำหรับเตรียมอาหารอยู่พอสมควร

ในส่วนของอ่างล้างจานแนะนำให้วางบริเวณหน้าต่าง จะได้ช่วยระบายกลิ่นอับและความชื้นได้ดีค่ะ

จากห้องครัวจะมีประตูสามารถเปิดออกสู่ลานซักล้างหลังบ้านได้ โดยพื้นล้างซักล้างปูด้วยกระเบื้องเซรามิก ขนาด 30 x 30 ซม. ความกว้าง ประมาณ 1.4 ม.

และมีจุดที่ทำลดระดับลงไปพร้อมติดก๊อกสนามและจุดเดรนน้ำสำหรับการซักล้าง

บริเวณหลังบ้าน ทางโครงการจะติดถังเก็บน้ำและปั๊มน้ำมาให้เราเรียบร้อยเลย

เหนือประตูหลังบ้าน ติดโคมไฟสี่เหลี่ยมให้ 1 ดวง

กลับเข้ามาในบ้าน มาตรงบริเวณโถงบันไดกันต่อค่ะ

ฝั่งซ้ายมือของโถงบันไดก็คือประตูห้องน้ำชั้นล่าง ใช้ประตูบานสำเร็จรูปติดมือจับแบบก้านโยกสแตนเลส

พื้นภายในห้องน้ำทำลดระดับลงไปเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.

และผนังกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ค่ะ ภายในห้องน้ำจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งค่ะ ฝั่งซ้ายเป็นอ่างล้างมือแบบแขวนผนังติดตั้งมาพร้อมกระจกเงา ตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค

ตัวอ่างทรงสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ใช้งานได้สะดวกพร้อมก๊อกน้ำล้างมือของ American Standard

ฝั่งขวาจะเป็นส่วนของโซนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์

โถสุขภัณฑ์พร้อม Accessories ใช้ของ American Standard เช่นกันค่ะ ระยะการติดตั้งกำลังดีนั่งได้สบายไม่อึดอัด ผนังด้านลังก่อ Lower Wall ให้ สามารถวางของตกแต่งหรือวางหนังสืออ่านเล่นได้สำหรับคนที่ชอบนั่งในห้องน้ำนานๆ

โซนอาบน้ำทำพื้นลดระดับลงไปเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน มีพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างกำลังดี ตรงนี้เราแนะนำให้ติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเอานะคะ

ที่ผนังก็ติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้เราเรียบร้อยของ American Standard เช่นเดิม ข้างๆ ทำ Lower Wall สามารถใช้วางขวดสบู่แชมพูได้เลย

ขนาดของหัวฝักบัวกำลังดีเลยค่ะ สามารถปรับรูปแบบของสายน้ำได้ด้วย

คราวนี้เราจะขึ้นไปดูที่ชั้น 2 กันต่อเลย บันไดมีความกว้าง 1 เมตร พื้นบันไดเป็นไม้ยางพาราอัดประสาน ส่วนราวบันไดเป็นระแนงเหล็กทาสีน้ำมัน มือจับเป็นไม้ใช้สีเข้ากันกับบันได

บันไดโครงสร้าง คสล. แข็งแรง ลูกนอนเป็นไม้ยางพาราประสานสีอ่อน ลูกตั้งทาสีขาว ติดราวบันไดระแนงเหล็กทาสีขาวกันสนิม มือจับชนิดเดียวกับลูกนอนต่อเนื่องไปจนถึงโถงบ้านชั้น 2

ผนังฝั่งหน้าบ้านมีหน้าต่างกระจกบานฟิกว์ทรงสูง ใช้เป็นช่องแสงธรรมชาติ ติดมาให้อีก 1 บาน

มุมมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 สูงโปร่งดีค่ะ มีช่องแสงขนาดใหญ่มาให้ทำให้บริเวณโถงดูสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟเลย

ตรงนี้จะมี Detail ที่น่าสนใจจุดนึงค่ะ เป็นช่องระบายอากาศระบบ Air Flow ของทางชวนชื่น อยู่บริเวณขอบหน้าต่างของห้องนั่งเล่นและขอบหน้าต่างของโถงบันได ช่วยลดความร้อนภายในตัวบ้านได้เป็นอย่างดี

มุมมองลงไปที่ชานพักบันได

ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นทั้งหมดจะปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 12 มม. ผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบติดวอลเปเปอร์ และฝ้าเพดานที่ชั้น 2 สูง 2.6 เมตรค่ะ โถงบันไดจะเชื่อมต่อกับห้องนอนและห้องน้ำชั้นบนทุกห้อง ฝั่งซ้ายมือของโถงบันไดคือห้องนอนใหญ่ของบ้านและห้องนอนเล็ก ส่วนฝั่งขวามือคือห้องนอนรองและห้องน้ำชั้นบนค่ะ

มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได

มาดูห้องทางฝั่งซ้ายมือของโถงกันก่อน เริ่มจากห้องนอนใหญ่ฝั่งขวาและห้องนอนเล็กฝั่งซ้าย

ภายในห้องนอนมีขนาดใหญ่และกว้างขวางสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ห้องนี้จะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือ โซนพักผ่อนและโซนแต่งตัว ฝ้าเพดานภายในห้องนอนเป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทุกห้อง

เข้าไปดูในโซนพักผ่อนกันก่อนค่ะ ภายในห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด King Size ได้เลย

และยังเหลือพื้นที่โดยรอบเตียงแบบเดินได้สบายๆ พร้อมกับวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ฝั่งปลายเตียงนอนสามารถวางทีวีหรือชั้นวางของได้สบายๆ

พอวางชั้นวางทีวีแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงอีกอยู่กว้างเลยนะ เดินผ่านได้ไม่เกะกะ

ที่ฝั่งหน้าบ้านของห้องจะมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เปิดออกสู่ระเบียงห้อง


พื้นที่ระเบียงมีขนาดกว้างพอประมาณ พอจะวางเก้าอี้ออกมานั่งรับลมได้ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกกันลื่นสีเทา 30 x 30 ซม.

ภาพมุมมองจากระเบียงย้อนกลับเข้ามาภายในห้องนอน

ในส่วนของโซนแต่งตัวจะอยู่เชื่อมกับห้องน้ำพอดี ตรงนี้เราสามารถกั้นห้องเพิ่มเติมทำเป็น Walk – in Closet ก็ได้เช่นกัน

ทางบ้านตัวอย่างตกแต่ง Walk – in Closet มาให้เราดูเป็นไอเดียค่ะ

ทางฝั่งซ้ายวางโต๊ะเครื่องแป้งขนาดใหญ่ และทางฝั่งขวาทำเป็นตูเสื้อผ้าแบบไม่มีบานปิด

เราเข้ามาดูด้านในห้องน้ำในตัวห้องนอนใหญ่กันต่อ

มีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว แถมยังได้ช่องแสงมาถึง 2 ฝั่งจึงทำให้ห้องน้ำดูสว่างและโปร่งดี พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิกและผนังกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้

อ่างล้างมือได้เป็นอ่างวางบนเคาน์เตอร์กระเบื้องลายหินธรรมชาติ ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก ด้านหลังตกแต่งด้วยกระเบื้องโมเสค ติดกระจกเงาให้ 1 บาน ผนังด้านข้างติดเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้ 1 จุด

ถัดเข้าไปด้านในวางโถสุขภัณฑ์ ด้านหลังก่อ Lower Wall ที่ด้านหลัง

ด้านในสุดเป็นโซนอาบน้ำทำพื้นลดระดับลงไปเล็กน้อย

ที่ผนังติดตั้งฝักบัวสายอ่อนมาให้เรียบร้อย เจาะผนังและทำเป็นชั้นวางสบู่ให้ 2 ชั้น ด้านล่างติดตั้งก๊อกสนามมาให้อีก 1 จุด ผนังเดินงานระบบไฟฟ้า รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้เรียบร้อยค่ะ

ส่วนฝั่งตรงข้ามทำม้านั่งสำหรับอาบน้ำ พร้อม Lower Wall เพื่อวางพวกสบู่แชมพูได้

เข้ามาภายในห้องนอนเล็ก มีขนาดใหญ่ไม่แพ้ห้องนอนรองเลยค่ะ พื้นที่ภายในห้องสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างครบครันและลงตัวมากๆ

พื้นที่ห้องจะเหมาะกับเตียงนอนขนาด 3 ฟุตครึ่งถึง 4 ฟุตก็ยังได้ และยังสามารถวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง หรือจะวางเป็นโต๊ะทำงานตัวเล็กๆ แทนก็ได้นะ

ในห้องนี้จะมีจุดเด่นที่ Bay Window ค่ะ สามารถจัดเป็นมุมนั่งพักผ่อนได้ ทั้งนี้จะขอแนะนำให้หันหัวเตียงไปอีกฝั่งแทน

ส่วนฝั่งทางด้านประตูทางเข้าห้อง เราสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เลย

โดยจะยังเหลือพื้นที่เป็นทางเดินสามารถเดินผ่านหรือยืนแต่งตัวได้สบายๆ ค่ะ

คราวนี้เรามาดูห้องทางฝั่งขวาของโถงบันไดกันบ้าง เริ่มจากห้องนอนรองฝั่งขวาตามด้วยห้องน้ำชั้นบนฝั่งซ้าย

ห้องนอนรองจะมีขนาดไม่ต่างจากห้องนอนเล็กเท่าไหร่ค่ะ โดยพื้นที่ภายในห้องสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ภายในห้องสามารถวางเตียงขนาด 3 ฟุตครึ่งได้ หรือจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตก็ได้นะ แต่ต้องดันเตียงชิดผนังฝั่งขวาค่ะ

ฝั่งปลายเตียงทางโครงการเตรียมพวกปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้สำหรับติดตั้งทีวีได้

ซึ่งพื้นที่ปลายเตียงจะยังเหลือเป็นทางเดินผ่านได้สะดวก ตรงนี้เราแนะนำให้ใช้ทีวีแบบแขวนผนังแทนนะ

ส่วนผนังอีกฝั่งเราสามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่รวมถึงโต๊ะเครื่องแป้งเพิ่มเติมได้ค่ะ

เข้ามาดูห้องน้ำชั้นบนต่อเป็นห้องสุดท้ายแล้ว จะเป็นห้องน้ำใช้รวมระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนห้องน้ำห้องก่อนๆ ทุกประการค่ะ

ได้อ่างล้างมือแบบแขวนผนัง

โถสุขภัณฑ์พร้อม Accessories ประกอบการใช้งาน

พื้นที่ยืนอาบน้ำด้านในกว้างขวางดีค่ะ ทำพื้นลดระดับให้ด้วย แนะนำให้ติดฉากกั้นอาบน้ำเพิ่มเติมเอานะ

ที่ผนังติดตั้งฝักบัวสายอ่อน ก๊อกสนาม และเจาะช่องทำชั้นวางสบู่ให้

ส่วนสวิตช์และปลั๊กไฟที่ใช้ภายในบ้านทั้งหมดจะเป็นของ Schneider Electric ค่ะ

---

แบบบ้าน Marisa ขนาด 162 ตร.ม.

บ้านตัวอย่าง Marisa ขนาด 162 ตร.ม.

แปลนชั้น 1 เริ่มจากที่หน้าบ้านมีพื้นที่จอดรถให้ 2 คันค่ะ และมีประตูบานเล็กให้เข้าบ้านจากทางลานจอดรถได้ ทางเข้าหลักจะอยู่ทางเฉลียงหน้าบ้าน ภายในบ้านมีการวางแปลนแบบ Open Plan ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่น ต่อเนื่องไปยังส่วนรับประทานอาหาร จากส่วนโถงกลางจะเชื่อมต่อกับ ห้องครัว, ห้องน้ำชั้นล่าง, ห้องนอนชั้นล่าง และโถงบันได จากห้องครัวจะเชื่อมกับลานซักล้างหลังบ้าน พื้นที่แต่ละส่วนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์พอสำหรับครอบครัวขนาด 4 – 6 คนค่ะ
แปลนชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนทั้งหมด 3 ห้องและห้องน้ำชั้นบน 1 ห้อง โดยห้องนอนขนาดเล็กและขนาดใหญ่จะวางอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ส่วนห้องนอนขนาดกลางและห้องน้ำชั้นบนจะอยู่ฝั่งหลังบ้านค่ะ ภายในห้องนอนใหญ่จะสามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้สบายๆ และมีห้องน้ำให้ในตัว ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะสามารถวางเตียงขนาดตั้งแต่ 3.5 – 5 ฟุตขึ้นไปได้และวางเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ได้อย่างลงตัว โดยจะใช้ห้องน้ำชั้นบนร่วมกันค่ะ
รั้วบ้าน และโรงจอดรถ บ้านมาตรฐาน

มาดูหน้าตาของบ้านมาตรฐานและรั้วบ้านกันก่อนค่ะ หน้าตาบ้านถูกออกแบบมาในสไตล์ American Country ใช้สีโทนพาสเทลดูสบายตา และตกแต่งด้วยลายไม้ตีตามขวาง

รั้วบ้านเป็นรั้วเลื่อนระแนงเหล็กตอนเดียว ที่รั้วบ้านจะมี ซุ้มประตูเล็กเป็นทางเท้าเข้าบ้าน, กล่อง Mail Box, กริ่งไร้สาย, โคมไฟ และถังขยะฝังกำแพง

ในส่วนของโรงจอดรถจะสามารถจอดรถได้ 2 คัน โครงสร้างเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก และเทพื้นซีเมนต์ขับเรียบ ที่ฝ้าเพดานเป็นฝ้าแผ่นเรียบไฟเบอร์ซีเมนต์ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้

ด้านในมีประตูบานสำเร็จรูปสามารถเปิดเข้าตัวบ้านได้ ทำสเต็ปขึ้นมาให้ประมาณ 15 ซม.

และเก็บรอยต่อของพื้นลานจอดรถด้วยหินกรวดแม่น้ำค่ะ

จากพื้นที่จอดรถมองไปยังพื้นที่สวนหน้าบ้าน


พื้นที่สวนหย่อมข้างบ้านค่ะ ทางโครงการจะทำการปูพื้นหญ้าและจัดสวนตามมาตรฐานของโครงการเอาไว้ให้แล้ว

เราเดินกลับมาที่เฉลียงทางเข้าบ้านค่ะ จะมีหลังคาคลุมกันแดดกันฝน พร้อมติดดวงโคมดาวน์ไลท์และไฟกิ่ง พื้นเฉลียงจะยกระดับขึ้นมาให้ ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. และเก็บขอบด้วยทรายล้างสีเทา

ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง เพื่อลดปริมาณความร้อนและความเข้มของแสงแดดที่จะส่องเข้าสู่ภายในบ้าน สามารถเลื่อนเปิดได้ 2 ฝั่ง

เมื่อเข้ามาในบ้านจะเจอกับห้องนั่งเล่นก่อน ถัดเข้าไปจะเป็นห้องทานอาหาร ทางขวามือจะเป็นห้องครัว ถ้าเดินเข้าไปในโถงทางเดินก็จะเป็น โถงบันได, ห้องน้ำ และห้องนอนชั้นล่าง ภายในบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ผนังเป็นผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบติดวอลเปเปอร์ให้ ส่วนฝ้าเพดานสูง 2.6 เมตร เป็นฝ้าฉาบเรียบติดดวงโคมดาวน์ไลท์ทั้งหมด

จะเห็นว่าพื้นที่ภายในโถงหลักค่อนข้างกว้างขวางและโปร่งโล่งดีทีเดียว เพราะได้ช่องแสงขนาดใหญ่ล้อมรอบถึง 3 ด้านเหมือนกัน

มาดูไอเดียการจัดพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านตัวอย่างกันต่อค่ะ ห้องนั่งเล่นมีขนาดกว้างขวาง สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่ง พร้อมโต๊ะกาแฟ และอาร์มแชร์ หรือเราจะวางเป็นโซฟาเบดก็ได้นะ

บริเวณชั้นวางทีวีสามารถทำเป็นชั้นแบบ Built – in เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่เก็บของที่ทำให้บ้านดูเป็นระเบียบมากยิ่งขึ้น

ระยะจากโซฟา ไปจนถึงขั้นวางทีวีเหลือเกือบ 3 เมตร ซึ่งเป็นระยะที่เหมาะสำหรับการดูทีวีขนาดจอ 60 นิ้วได้เลย

เราไปดูในส่วนของห้องทานอาหารกันต่อ

ภายในห้องจะได้ช่องแสงมาทั้ง 2 ด้าน เป็นหน้าต่างและประตูบานเลื่อน ในส่วนของเนื้อที่ก็ค่อนข้างเหลือเฟือ สามารถวางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งแล้วต่อหัว – ท้ายเป็น 8 ที่นั่งก็ยังไหว

ด้านข้างห้องทานอาหารมีประตูบานเลื่อน สามารถเปิดเชื่อมต่อกับสวนข้างบ้านได้แบบนี้

ภาพมองย้อนกลับเข้าไปภายในตัวบ้าน

ทางบ้านตัวอย่างต่อเติมขยายห้องครัวให้ใหญ่ขึ้น ให้ดูเป็นแนวทาง แต่บ้านมาตรฐานก็จะกั้นห้องครัวไทย แยกส่วนด้วยประตูกระจกบานเลื่อนมาให้เช่นเดียวกันค่ะ

ภายในห้องครัวจะสามารถวางเคาน์เตอร์เป็นรูปตัว L พร้อมเตาปรุงอาหาร และ เคาน์เตอร์ซิงค์ล้างจานตัว I ก่อนการปรุงอาหารเราสามารถเปิดประตูบานเลื่อน ก็จะได้เป็นห้องครัวขนาดใหญ่ใช้เตรียมอาหารได้สบาย ๆ พอเราจะปรุงอาหารที่มีกลิ่นแรง ๆ ก็เพียงปิดบานเลื่อนเท่านั้น นับว่าเป็นจุดที่น่าสนใจทีเดียวค่ะ

จากห้องครัวจะมีประตูสามารถเปิดออกสู่ลานซักล้างหลังบ้านได้

พื้นล้างซักล้างปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม.ให้เราแบบนี้ค่ะ กว้างประมาณ 1.2 ม. และมีจุดที่ทำลดระดับลงไปพร้อมติดก๊อกสนามและจุดเดรนน้ำสำหรับการซักล้างให้เหมือนเดิม

บรรยากาศภาพรวมบริเวณพื้นที่ซักล้างและสนามหญ้าหลังบ้าน

เราเดินเข้ามาภายในโถงทางเดินกันต่อ มาดูห้องน้ำและห้องนอนชั้นล่างกันค่ะ

โดยประตูฝั่งซ้ายมือคือประตูห้องน้ำ และประตูฝั่งขวามือคือประตูห้องนอน

พื้นภายในห้องน้ำทำลดระดับลงไปเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน ปูด้วยกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 ซม. และผนังกรุด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ มีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้งติดมาให้ 1 บาน ส่วนวัสดุและสุขภัณฑ์จะใช้เหมือนกับบ้านหลังที่แล้วทุกประการ

อ่างล้างมือแบบแขวนผนัง พร้อมก๊อกน้ำโครเมียมทางสูง ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์พร้อม Accessories ของ American Standard ผนังด้านหลัง่กอ Lower Wallพร้อมติดกระจกเงามาให้เรียบร้อย

โซนอาบน้ำทำพื้นลดระดับลงไปเล็กน้อยเพื่อกันน้ำไหลย้อน มีพื้นที่ยืนอาบน้ำกว้างกำลังดี และก่อผนังขึ้นมากั้นส่วนเล็กน้อย

ภายในติดตั้งฝักบัวสายอ่อนและเจาะผนังทำชั้นวางสบู่ให้เหมือนเดิม

ตามด้วยห้องนอนชั้นล่าง ห้องนอนชั้นล่างเหมาะสำหรับเป็นห้องนอนของผู้สูงอายุค่ะ จะได้ไม่ต้องขึ้น-ลงบันไดบ่อย ๆ หรือเราจะใช้เป็นห้องอเนกประสงค์แทนก็ทำได้ค่ะ

ตามบ้านตัวอย่างได้จัดเป็นห้องนอนสามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัว วางเตียงนอนขนาด 3.5 ฟุต ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งได้พอดี ภายในห้องจะได้หน้าต่างกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีขาวติดเข้ามามารวม 2 บาน

โต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าค่ะ วางข้างประตูทางเข้าห้องแบบนี้

ส่วนฝั่งปลายเตียงก็ยังเหลือพื้นที่สามารถวางตู้เก็บของหรือชั้นวางทีวีก็ได้

บรรยากาศภาพรวมภายในห้องนอนชั้นล่าง

อีกฝั่งของบ้านจะเป็นห้องเก็บของ โถงบันได และ ประตูรองที่ใช้เชื่อมสู่ที่จอดรถด้านนอกบ้าน

ข้างๆ บันไดทางขึ้นจะมีห้องเก็บของให้ค่ะ เป็นการใช้พื้นที่ใต้โถงบันไดให้เป็นประโยชน์

บันไดมีความกว้าง 1 เมตร โครงสร้างบันไดคสล.แข็งแรง พื้นบันไดเป็นไม้ยางพาราอัดประสาน ส่วนราวบันไดเป็นระแนงเหล็กทาสีน้ำมัน มือจับเป็นไม้ใช้สีเข้ากันกับบันได

มุมมองขึ้นไปยังโถงบันไดชั้น 2 สูงโปร่งดีค่ะ มีช่องแสงขนาดใหญ่มาให้ พร้อมช่องระบายอากาศระบบ Air Flow ทำให้บริเวณโถงดูสว่างโดยไม่ต้องเปิดไฟเลย

มุมมองลงไปที่ชานพักบันได

ขึ้นมาที่ชั้น 2 พื้นทั้งหมดจะปูด้วยไม้ลามิเนตหนา 12 มม. ผนังก่ออิฐมวลเบาฉาบเรียบติดวอลเปเปอร์ และฝ้าเพดานที่ชั้น 2 สูง 2.6 เมตร โถงบันไดจะเชื่อมต่อกับห้องนอนและห้องน้ำชั้นบนทุกห้อง ฝั่งซ้ายมือของโถงบันไดคือห้องนอนใหญ่ของบ้าน ตรงกลางโถงคือห้องน้ำชั้นบน ส่วนฝั่งขวามือคือห้องนอนรองและห้องนอนเล็กค่ะ

มุมมองย้อนกลับไปที่โถงบันได

เดี๋ยวเราจะเข้าไปดูภายในห้องนอนใหญ่ที่อยู่ฝั่งซ้ายมือของโถงกันก่อน

ภายในห้องนอนมีขนาดใหญ่และกว้างขวางสามารถใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ห้องนี้จะแบ่งออกเป็น 2 โซนคือ โซนพักผ่อนและโซนแต่งตัว ฝ้าเพดานภายในห้องนอนเป็นฝ้าฉาบเรียบ ติดดวงโคมดาวน์ไลท์ให้ทุกห้อง

เข้าไปดูในโซนพักผ่อนกันก่อนค่ะ ภายในห้องสามารถวางเตียงนอนขนาด King Size ได้เลย

และยังเหลือพื้นที่โดยรอบเตียงแบบเดินได้สบายๆ พร้อมกับวางโต๊ะข้างได้ทั้ง 2 ฝั่ง

ฝั่งปลายเตียงนอนสามารถวางทีวีหรือชั้นวางของได้สบาย ๆ ผนังฝั่งนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานเปิด และหน้าต่างกระจกบานเลื่อนติดมาให้รวม 2 บานค่ะ

ที่ฝั่งหน้าบ้านของห้องจะมีประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่เปิดออกสู่ระเบียงห้อง

พื้นที่ระเบียงมีขนาดกว้างพอประมาณ พอจะวางเก้าอี้ออกมานั่งรับลมได้ พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิกเหมือนเดิมค่ะ

และตกแต่งด้วยไม้ระแนงช่วยสร้างบรรยากาศแบบ American Country Style

ภาพมุมมองจากระเบียงย้อนกลับเข้ามาภายในห้องนอน

ในส่วนของโซนแต่งตัวจะอยู่เชื่อมกับห้องน้ำพอดี ตรงนี้เราสามารถกั้นห้องเพิ่มเติมทำเป็น Walk – in Closet ก็ได้เช่นกัน

ทางบ้านตัวอย่างตกแต่ง Walk-in Closet มาให้เราดูเป็นไอเดียค่ะ

ฝั่งทางขวามือของ Walk – in Closet ก็คือห้องน้ำในตัว

เราเข้ามาดูด้านในห้องน้ำในตัวห้องนอนใหญ่กันต่อ มีพื้นที่ที่ค่อนข้างกว้างขวาง ภายในใช้วัสดุและสุขภัณฑ์เหมือนเดิมทุกประการค่ะ

ฝั่งทางขวาของห้องเป็นเคาน์เตอร์อ่างล้างมือขนาดใหญ่ มีพื้นที่เหลือให้วางของใช้ได้เยอะ ผนังติดกระจกเงาสี่เหลี่ยมบานใหญ่ให้แบบในภาพ

ตรงกลางห้องคือโถสุขภัณฑ์ พร้อมอุปกรณ์ประกอบครบชุด ผนังด้านหลังก่อ Lower Wall มาให้เรียบร้อย

และฝั่งซ้ายของห้องคือโซนอาบน้ำ มีม้านั่งอาบน้ำให้ด้วย

ฝักบัวสายอ่อน ก๊อกน้ำโครเมียมก้านโยก ด้านล่างติดก๊อกสนามมาให้เพิ่มเติมดอีก 1 จุด ผนังเดินงานระบบไฟฟ้า รองรับการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้ครบ และจุดนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานกระทุ้ง ติดมาให้อีก 1 บาน

คราวนี้เรามาดูห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องกันต่อ เริ่มจากห้องนอนเล็กฝั่งขวาและห้องนอนรองฝั่งซ้าย

เข้ามาภายในห้องนอนเล็ก มีพื้นที่ภายในห้องที่สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างครบครันและลงตัว รวมถึงมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนขนาดใหญ่ ติดเข้ามุมมาให้รวม 2 บาน

พื้นที่ห้องจะเหมาะกับเตียงนอนขนาด 3.5-5 ฟุต และมีพื้นที่เหลือด้านข้างให้วางโ๖๊ะหัวเตียงขนาดกะทัดรัดเพิ่มเข้าไปได้

พื้นที่ข้างเตียงเป็นจุดที่เหมาะสำหรับวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งหรือโต๊ะทำงาน

ฝั่งปลายเตียงทางโครงการเตรียมพวกปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้สำหรับติดตั้งทีวีได้ค่ะ

ห้องนอนรองจะมีขนาดใหญ่กว่าห้องนอนเล็กพอสมควร โดยพื้นที่ภายในห้องสามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และได้หน้าต่างกระจกบานเลื่อนบานใหญ่ติดเข้ามุมมาแบบนี้เลยค่ะ

พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต ได้อย่างลงตัว

พื้นที่ใช้งานรอบเตียงเหลือค่อนข้างกว้าง เดินเข้า-ออก เปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้อย่างสะดวก

ผนังด้านข้างมีพื้นที่เหลือเยอะ สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ และเสริมด้วยโต๊ะเครื่องแป้ง หรือโต๊ะทำงานเข้าไปได้

ส่วนฝั่งปลายเตียงทางโครงการเตรียมพวกปลั๊กไฟและสายอากาศเอาไว้ให้สำหรับติดตั้งทีวีได้ และยังสามารถวางชั้นวางของ / ตู้เก็บของเพิ่มเข้าไปได้ค่ะ

เราจบด้วยห้องน้ำชั้นบนเป็นห้องสุดท้าย

ซึ่งจะเป็นห้องน้ำใช้รวมระหว่างห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ทั้งวัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนห้องน้ำห้องก่อน ๆ ทุกประการค่ะ
ราคา (พ.ย.62)

• แบบบ้าน Iris พื้นที่ใช้สอย 143 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 6.29 ล้านบาท*
• แบบบ้าน Marisa พื้นที่ใช้สอย 162 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท*
• แบบบ้าน Vanda พื้นที่ใช้สอย 163 ตร.ม. 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
• ราคาเริ่มต้น 7.19 ล้านบาท*
• โปรโมชั่นพิเศษ (พ.ย.62)
• ฟรี ! ค่าใช้จ่ายวันโอน
• ฟรี ! ประกันมิเตอร์น้ำ+ไฟ
• ฟรี ! ค่าส่วนกลาง 3 ปี
• ฟรี ! Fiber Optic AIS 1 ปี

*ข้อมูลราคา และโปรโมชั่นอาจมีการเปลี่ยนแปลง โปรดติดต่อสำนักงานขายเพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม*

---

บทสรุปโครงการ
♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ ชวนชื่น ซิตี้ วัชรพล-รามอินทรา โครงการตั้งอยู่ในซอยคู้บอน 27 แขวงท่าแร้ง เขตบางเขน กทม. ซึ่งเป็นย่านของที่อยู่อาศัยในแนวราบ มีทั้งบ้านจัดสรร, บ้านพักอาศัยดั้งเดิม, คอนโด Low rise, ออฟฟิศ โดยจะมีอาคารพาณิชย์เรียงขนาบถนนใหญ่ พอเข้าซอยก็จะเป็นลักษณะของชุมชน มีความอุดมสมบูรณ์อยู่พอสมควร เนื่องจากเป็นย่านของที่อยู่อาศัยและออฟฟิศขนาดย่อม ๆ
รายล้อมไปด้วยห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, คอมมูนิตี้มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ต รวมถึงตลาดนัดตอนกลางคืนอีกด้วย ปัจจัยที่จะช่วยผลักดันให้ทำเลนี้พัฒนาขึ้นไปอีกก็คือรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ตอนนี้กำลังก่อสร้างอยู่ ไม่ว่าจะซื้อโครงการเอาไว้อยู่เองหรือซื้อไว้ลงทุนดูก็น่าสนใจค่ะ
♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางได้สะดวก เข้า-ออกได้จากซอยคู้บอน 27 ถนนคู้บอน อยู่ใกล้กับถนนรามอินทราและถนนวัชรพลซึ่งสามารถเชื่อมไปยังถนนใหญ่ได้อีกหลายเส้น อยู่ใกล้วงแหวนกาญจนาภิเษกซึ่งเป็นตัวช่วยในการเดินทางอีกเส้นหนึ่ง จะวิ่งขึ้นไปทางบางปะอินหรือใช้วิ่งลงไปทางบางนาก็สะดวก
อีกทั้งยังเชื่อมต่อกับมอเตอร์เวย์และทางพิเศษบูรพาวิถีอีกด้วย และมีอีก 1 ตัวช่วยในการเดินทางคือทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ซึ่งจะไปเชื่อมต่อกับทางพิเศษศรีรัชและทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้การเดินทางเข้าเมืองสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น
ส่วนถนนรามอินทราถ้าวิ่งไปฝั่งตะวันตกทางปากเกร็ด จะไปเชื่อมกับถนนแจ้งวัฒนะตัดกับถนนพหลโยธินและถนนวิภาวดี-รังสิตและผ่านหน้าศูนย์ราชการ ส่วนฝั่งตะวันออกจะยิงยาวไปถึงมีนบุรี และถนนวัชรพลเองก็สามารถใช้วิ่งขึ้นไปทางห้าแยกวัชรพลเชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 5 ถนนเทพารักษ์ ถนนเพิ่มสิน และ ถนนสายไหม ซึ่งจะมีซอยเชื่อมไปยังถนนลำลูกกาได้ด้วย
♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ โครงการเหมาะสำหรับผู้ที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก เพราะบริเวณหน้าโครงการจะไม่มีรถประจำทางวิ่งผ่านค่ะ แต่เราสามารถใช้บริการวินมอเตอร์ไซค์และรถแท็กซี่ได้โดยแนะนำให้ใช้ Application Grab Taxi และ Line Taxi เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น
และในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี บนเส้นรามอินทรา สถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีคู้บอน ซึ่งอยู่ห่างจากสถานีวัชรพล เพียง 2 สถานี เป็นสถานี Interchange ระหว่างรถไฟฟ้าสายสีเทาช่วงวัชรพล-ทองหล่อเป็นโครงการในอนาคตที่วิ่งเลียบเส้นเลียบด่วนรามอินทราค่ะ
♦ การออกแบบโครงการและวัสดุ ตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยวสูง 2 ชั้น มีความเป็นส่วนด้วยจำนวนเพียง 113 ยูนิต บนที่ดิน 25 ไร่ ขนาดฟังก์ชั่น 3-4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และที่จอดรถ 2 คัน ออกแบบบ้านมาในสไตล์ American Country พร้อมนวัตกรรม Air Flow เพื่อลดความร้อนภายในบ้าน ออกแบบและใช้โทนสี Pastel เพื่อให้ดูอบอุ่นและสบายตา พร้อมฟังก์ชั่นสำหรับสมาชิกทุกคนในครอบครัว
เทียบกับพื้นที่โครงการถือว่าเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่มาก ไม่แออัด ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวดีค่ะ โครงการถูกออกแบบมาเป็นอย่างดี มีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวางทุกห้อง ฝ้าเพดานที่สูงโปร่งทั้งชั้นบนและชั้นล่าง หน้าต่างขนาดใหญ่รอบบ้านทำให้บ้านดูโปร่งโล่งและทำให้แสงสว่างจากภายนอกสามารถส่องเข้ามาได้ทั่วถึง
ความโดดเด่นของโครงการอีกข้อก็คือวัสดุที่ทางโครงการได้เลือกใช้ ภายในห้องน้ำมีการคัดสรรกระเบื้องหลายชนิดมาใช้ตกแต่งผนังห้องดูสวยงามและเหมาะสม และภายในโซน Shower ลดระดับพื้นเพื่อแบ่งส่วนเปียกและส่วนแห้งออกจากกันอย่างชัดเจน
♦ สิ่งอำนวยความสะดวกและระบบรักษาความปลอดภัย ทางโครงการเองก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกให้เป็นสวนหย่อมสไตล์ American Country พร้อมสนามเด็กเล่นที่เสริมสร้างการเรียนรู้สำหรับเด็กๆ ที่สามารถใช้งานได้เป็นอย่างดี เพียงพอต่อจำนวนยูนิตในโครงการ
ส่วนระบบรักษาความปลอดภัยจะมีกล้องวงจรปิดติดรอบโครงการ, การเข้า-ออกโครงการจะต้องผ่านป้อมยาม, รั้วไม้กระดก และระบบ Easy Pass ถือว่าใช้ได้ค่ะ

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
Tel : 1622
Website : https://www.mk.co.th/